ความหย่อนคล้อยคืออะไร

ความหย่อนคล้อยคืออะไร

ความหย่อนคล้อยคืออะไร ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้า หลายๆคนคงทราบกันดีว่าเป็นปัญหาหลักที่กวนใจหลายๆคนมาก โดยเฉพาะสาวๆที่เริ่มมีอายุมากขึ้น ซึ่งหากเราไม่มีการยกกระชับใบหน้า การสร้างคอลลาเจนของผิวจะลดลง และจะทำให้ผิวเราหย่อนคล้อยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามเกิดขึ้นได้ ก็แก้ไขได้ปัจจุบันเทคโนโลยี ทำให้เราไม่ต้องผ่าตัด หรือศัลยกรรมให้เจ็บตัวเลย ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับเจ้าความหย่อนคล้อยกันก่อนเลยดีกว่า

ความหย่อนคล้อยคืออะไร ? เกิดจากอะไร?

สาเหตุที่ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย มีดังนี้เลย

1.ความหย่อนคล้อยคืออะไร อายุ เมื่อเรามีอายุเยอะ ผิวของเราไม่กระชับ ผิวก็จะตกลงมา ต่อมาคือความโครงสร้างต่างๆใต้ชั้นผิวลดลง ไม่ว่าจะเป็นกระดูกชั้น Bone หรือว่าจะเป็นเรื่องของ Fat ก็จะทำให้หน้าเราตกหรือว่าหย่อนคล้อยลงมา

2.ไขมันที่เยอะในจุดนั้นๆ

3.ความหย่อนคล้อยคืออะไร โครงสร้างหน้าเดิม อย่างเช่น บางคนถ้าหากมีกระดูกโหนกแก้ม หรือกระดูกหน้าแก้มสูง แน่นอนว่าหน้าก็จะดูกระชับกว่าคนที่แบบไม่มีตัวกระดูกที่เด่นชัด

4.การดูแลตัวเอง แน่นอนว่าคนที่ดูแลตัวเองมาตั้งแต่อายุน้อยๆ ย่อมเกิดความหย่อนคล้อยได้ช้ากว่าคนที่ไม่ดูแลตัวเองอะไรเลย การดูแลตัวเองเราก็ทำได้หลายวิธี เช่น บำรุงผิวหน้า ออกกำลังกายทั้งร่ายกายและกล้ามเนื้อใบหน้า หลีกเลี่ยงการตากแดดเป็นเวลานาน เป็นต้น

เราสามารถจัดการกับปัญหาความหย่อนคล้อยนี้ได้อย่างไรบ้าง ?

ที่ได้รับความนิยม ก็จะมี Hifu (High Intensity Focus Ultrasound) –  เป็นเครื่องที่ปล่อยพลังงานออกมา ไม่มีเข็ม และการปล่อย Product ใดๆออกมา เป็นการใช้คลื่นความร้อนในอุณหภูมิที่พอดี สู่ผิวหนังบนใบหน้าชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังกระชับ อ่อนเยาว์ขึ้น

หลังจากทำ Hifu ต้องพักหน้าไหม ?

ไม่ต้องพักหน้าเลย เพราะเนื่องจากหน้าเราจะไม่มีความบวม ความช้ำ ความอะไรเลย

Hifu ทำกี่ครั้งเห็นผล ? นานเท่าไหร่จะเห็นผลเต็มตัว?

ทำ 1 ครั้งเห็นผลเลย เห็นผลทันที ณ ตอนที่ทำประมาณ 10-20% ของผลทั้งหมดของเครื่อง ยกตัวอย่างเช่น ยิงวันนี้ ยิงเสร็จคุณหมอก็จะให้คนไข้ดูกระจกก่อน เพื่อที่คนไข้จะได้เห็นความแตกต่างของทั้งสองข้าง สำหรับระยะเวลาที่จะเห็นผลเต็มตัว คือ 1 เดือน เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่คอลลาเจนทั้งหมดจะมาสร้างและ Fill อยู่บนผิวเรา

 

อยู่ได้นานเท่าไหร่ ? ทำไมอยู่ได้เท่านี้ ?

การทำ Hifu จะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน แล้วแต่ช่วงวัย แล้วก็แล้วแต่การดูแล เพราะคอลลาเจน 1 เซลล์ที่สร้างขึ้นมาจะอยู่ได้ 6 เดือน และมันก็จะเกิดการถูกทำลายไปตามกระบวนการในร่างกาย  เพราะฉะนั้นทุก 6 เดือน เราก็ต้องเกิดการกระตุ้นใหม่ด้วยวิธีอะไรก็แล้วแต่ อันนี้แล้วแต่เรา

 

ก่อนทำต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

สามารถมาทำได้เลย เป็นโปรแกรมที่ทำแล้วก็ไปธุระต่อได้ อาจจะต้องเตรียมเมคอัพมา เพราะอย่างที่ว่าเราจะต้องมีการลงเจล พอลงเจลเมคอัพก็จะเลือน ดังนั้น แนะนำให้นำเมคอัพมา เพื่อไปธุระต่อได้แบบสวยเป๊ะ

ร้อยไหม

ทาง Lively Clinic ใช้เป็นไหมก้างปลา  ตัวไหมจะมีการใช้เลเซอร์ ให้มันมีเงี่ยงเล็กๆ เป็นแสนเป็นล้านเงี่ยง เพราะฉะนั้น พอร้อยเข้าไปในผิวแล้วเราดึงขึ้นมา มันก็จะสามารถดึงจากในผิวเราได้เป็นแสนเป็นล้านจุด ทำให้สามารถยกได้ ทางคลินิกจะมีการอัพเดทไหมทุกปี โดยจะเลือกไหมที่ดีที่สุดให้คนไข้ และอัพเดทให้ทราบ แต่ไม่ได้เปลี่ยนชื่อโปรแกรม

ร้อยไหมมีวิธีการอย่างไร ?

เราจะต้องมีการเปิดรูสำหรับการร้อยไหม แล้วก็ร้อยตัวไหมลงไป  หมอก็จะดู ประเมินว่า คนไข้หย่อนตรงไหนเยอะ ก็จะร้อยตรงนั้น และก็จะยก ตาม Vector ที่มันหย่อนลงมา

ก่อนทำต้องเตรียมตัวอย่างไร และหลังทำต้องดูแลยังไงบ้าง ?

ก่อนทำไม่ได้แนะนำให้งดอะไรนะคะ แต่หลังทำแนะนำให้มีช่วงระยะเวลาในการพักหน้า 1 อาทิตย์ถ้าหากว่าเป็นคนที่ทำงานปกติไม่ได้ใช้หน้าอะไร สามรถไปทำงานได้เลย ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่หากเราทำงานที่ใช้หน้าพบปะผู้คน สมมติว่าต้องไปงาน จะแนะนำให้ทำช่วงก่อนงาน คือไหมเนี่ยจะสวยที่สุดช่วงที่ 1-2 เดือนหลังทำ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ทำก่อนที่จะไปงานสักประมาณเดือนนึง

ร้อยไหมอยู่ได้นานรึเปล่า ?

อยู่ได้ประมาณปีครึ่ง ถึงสองปี แต่ระหว่างการที่แบบดูแลแแนะนำให้มายิง Hifu หรือว่าทำตัว ABOLIFTING เพิ่มเป็นครั้งๆไป โดยเฉพาะถ้าหากเป็นคนอายุเยอะมากๆ หมออาจจะแนะนำว่าเบื้องต้นให้ยิง Hifu ก่อน ทิ้งไว้สักเดือนนึงแล้วค่อยมาเก็บรอยไหมจะสวยกว่า เพื่อ Boost คอลลาเจนในผิว เพราะว่าบางทีร้อยไหมไป ถ้าคอลลาเจนเราไม่ดี อาจจะทำให้ผิวเป็นเหมือนแบบผิวส้มขรุขระ แต่ถ้าเกิดเรา Boost ผิวขึ้นมาให้มันดีขึ้นประมาณนึงแล้ว แล้วมาร้อยไหม มันก็จะยิ่งผิวเป๊ะขึ้น ไม่มีคำว่าขรุขระแบบนั้นแน่นอน และที่สำคัญก็คือไหมอยู่ได้นานด้วย

Botox

เป็นโปรแกรมใหม่ที่เริ่มแพร่หลายและใช้ทั่วไป ใช้ Botox ในการ Lift ตั้งแต่กรอบหน้า คอ และก็ขึ้นไปถึงข้างบนจะช่วยกระชับได้อีกชั้นนึง โดยเลือกใช้เป็น Botox ยี่ห้อ Dysport จากประเทศอังกฤษ เพราะมีการศึกษารองรับในเรื่องของการกระตุ้นของการสร้างคอลลาเจนที่บริเวณผิวได้ดีกว่า Botox แบรนด์อื่น แต่วิธีนี้จะตอบโจทย์ในเรื่องของความยกกระชับน้อยกว่า Hifu และ ร้อยไหม เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีความหย่อนคล้อยเยอะ ต้องการให้หน้า มี Shape ที่สวยขึ้น มีกรอบหน้าที่ดูดีขึ้น เราสามารถทำ Combine กับโปรแกรม ABOLIFTING ได้อีกด้วย

 

หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง Filler Lifting และเกิดความสงสัย ว่าเอ๊ะ ! ทำได้หรอ ไม่ใช่ทำได้แค่เติมให้เต็มหรอ ?

อย่างที่บอกไปตอนแรก คือ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย คือโครงสร้างใต้ชั้นผิวบนใบหน้าลดลง เพราะฉะนั้นการที่เราเติมผิวถูกจุด มันก็เหมือนเป็นการยกกระชับหน้าไปในตัว เช่น เราเติมหน้าแก้ม เติมขมับ จุดนี้มันก็จะดูยกมาด้วย ร่องแก้มก็จะดูเปิดออก เพราะฉะนั้นสำหรับ Filler Lifting  ถ้าหากว่าเป็นคุณหมอที่เชี่ยวชาญในการฉีด ไม่ว่าจะเติมจุดไหนก็ตาม เติมแล้วหน้าต้องยก

แอดนำความรู้และสาระดีๆจากคุณหมอทั้ง 2 คน มาฝาก ชอบกันไหมคะ อย่างไรก็ตามแนะนำให้ทุกคน นัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะ เพราะแต่ละคนมีผิวและปัญหาแตกต่างกัน บางคนทำ 1 โปรแกรมจบ บางคน 2 โปรแกรมถึงจะได้ผลดี ชัดเจน หรืออาจจะแอดไลน์ @Livelyclinic เพื่อส่งรูปถ่ายเข้ามาประเมินก่อนเบื้องต้นได้ค่ะ ต่อไปแอดจะนำเกร็ดความรู้เรื่องอะไรมากฝากอีกนั้น อย่าลืมติดตามกันนะจ้ะ

 

 

? : 095-294-6914 , 063-916-6394

ดูรีวิวHIFU

ดูรีวิวABOLifting

ดูรีวิวร้อยไหม

สนใจสอบถามเพิ่มเติม จองคิว ขอดูรีวิว อินบ็อกซ์

http://m.me/livelyclinic
หรือแอดไลน์????
http://bit.ly/385jTNG
ดูรายละเอียด และ รีวิว ของทุกโปรแกรมได้ที่ ??
www.livelyclinic.com

ดูรีวิวอื่นๆในYoutubeของเรา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *